สกร. ผนึกกำลัง สจนท. ขับเคลื่อนระบบแนะแนว มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัยวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ สมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย (สจนท.) เพื่อประสานความร่วมมือการดำเนินงานด้านการแนะแนวและให้คำปรึกษา ในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานแนะแนวในทุกมิติ ทั้งด้านการศึกษา วิชาชีพ และการพัฒนาตนเอง อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน และได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ พ.ต.ท.หญิง ดร.สุขอรุณ วงษ์ทิม นายกสมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย ดร.ธิรดา สุวัณณะศรี ดร.นเรศ กันธะวงค์ นางสาวสุลีวัลย์ สินแสนยานุกูล โดยนางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ เป็นผู้รายงานผลและแผนการดำเนินงาน พร้อมทั้งผู้แทนจากกองมาตรฐานและส่งเสริมคุณวุฒิ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือ ณ ห้องประชุมสุนทร สุนันท์ชัย กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)นายธนากร ดอนเหนือ กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้เพื่อตอบโจทย์ของชีวิตตนเอง เพราะเมื่อผู้เรียนรู้จักตนเอง เข้าใจศักยภาพ ความถนัด ความฝัน และข้อจำกัดของตนอย่างแท้จริง เขาจะสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของตนได้อย่างมั่นคงและเปี่ยมพลัง นี่คือหัวใจของการแนะแนว การแนะแนวจึงไม่ใช่เพียงการให้ข้อมูล แต่คือกระบวนการร่วมเรียนรู้และค้นหาคำตอบ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้สำรวจตนเอง กล้าฝัน และกล้าลงมือสร้างฝันนั้นให้เป็นจริง ด้วยแผนชีวิตที่เหมาะสมกับเขาอย่างเฉพาะตัวในฐานะที่กรมส่งเสริมการเรียนรู้ทำงานกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้ต้องขัง ทหาร กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงานนอกระบบ เยาวชน คนวัยทำงาน ผู้สูงวัย หรือผู้พลัดถิ่น ทุกคนล้วนมีบริบทชีวิตที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ‘ความปรารถนาที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ หากพวกเขาได้รับการแนะแนวที่เข้าใจ ไม่ตัดสิน และมุ่งเน้นการเสริมพลัง ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 เรามีพันธกิจที่จะส่งเสริมศักยภาพ ความรู้ และทักษะเฉพาะด้านของประชาชน เพื่อให้สามารถใช้ประกอบอาชีพและยกระดับชีวิตของตนได้อย่างยั่งยืน และการแนะแนวคือกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายนั้นกับผู้เรียนในทุกช่วงวัย ครูแนะแนวจึงไม่ใช่เพียงผู้ให้คำแนะนำ แต่คือ “ผู้ร่วมทางชีวิต’ คือผู้ฟังที่ไว้วางใจได้ และเป็นกระจกสะท้อนให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของตนเอง เราต้องเปลี่ยนบทบาทจาก ‘คนให้คำตอบ’ มาเป็น ‘ผู้สร้างคำถามที่นำไปสู่คำตอบที่แท้จริงของชีวิต”ขอขอบคุณสมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาระบบแนะแนวร่วมกับกรมฯ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบแนะแนวที่มีทั้ง ‘หัวใจ’ และ ‘ความหมาย’ เพื่อให้ผู้เรียนในทุกพื้นที่ของประเทศไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง และใช้การเรียนรู้นั้น พาตนเองไปสู่ชีวิตที่ดีและมั่นคง”รองศาสตราจารย์ พ.ต.ท.หญิง ดร.สุขอรุณ วงษ์ทิม นายกสมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทยยึดมั่นเสมอมาว่า การแนะแนวที่แท้จริงนั้น ต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาคนให้ ‘เป็นคนดี’ ก่อนจะ ‘เป็นคนเก่ง’ เราเชื่อว่ารากฐานของความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่เพียงความรู้หรือทักษะ แต่คือ ‘ความเป็นมนุษย์’ ที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดีงาม และรับผิดชอบต่อสังคมเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาคนให้เติบโตอย่างสมดุล ทั้งทางความรู้ ความสามารถ และจิตใจ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว คนที่มีคุณธรรม คือคนที่จะนำพาสังคมไปในทางที่มั่นคงและยั่งยืน การแนะแนวจึงไม่ใช่เพียงการเลือกสายการเรียน หรือแนะนำอาชีพที่ดีเท่านั้น แต่คือการช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคุณค่าของตนเอง เข้าใจหน้าที่ของตนต่อครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ สมาคมฯ พร้อมจะเป็นพลังเสริมให้แก่ครูแนะแนว ครู สกร. และบุคลากรทุกภาคส่วนที่ตั้งใจเป็นผู้จุดแสงสว่างให้ผู้อื่น ผ่านทั้งการฝึกอบรม พัฒนาทักษะด้านจิตวิทยา และการเป็นที่ปรึกษาในเชิงลึก โดยมีหลักคิดร่วมกันว่า ‘การแนะแนวที่มีหัวใจ จะสร้างคนที่มีจิตใจงดงาม และคนงดงามจะร่วมกันสร้างสังคมที่ดี’ เราไม่ได้เพียงต้องการพัฒนาคนให้ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ต้องการสร้างพลเมืองที่เข้มแข็ง มีจิตสาธารณะ และพร้อมจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติ ด้วยหัวใจที่มั่นคง และความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง สมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นภาคีในพันธกิจนี้ และพร้อมจะเคียงข้างกรมส่งเสริมการเรียนรู้ในการขับเคลื่อนงานแนะแนวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกระดับ เราเชื่อว่า ‘เมื่อคนเปลี่ยน สังคมจะเปลี่ยน และประเทศจะเปลี่ยน’ นี่คือภารกิจที่เรายินดีจะร่วมลงมือไปด้วยกัน”นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ได้กล่าวว่า “ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ เราตระหนักดีว่า ‘การแนะแนว’ คือ รากฐานที่สำคัญของการวางแผนชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการพัฒนาตนเอง และต้องเป็นระบบที่สามารถ ‘ฟังเสียงของชีวิตจริง’ ของผู้เรียนให้ได้การแนะแนวที่ดีในวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การมีเครื่องมือหรือแบบทดสอบเท่านั้น แต่ต้องมีความยืดหยุ่น คล่องตัว และตอบสนองต่อความหลากหลายของบริบท ทั้งในแง่พื้นที่ เพศ วัย สภาพเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งความเชื่อ วัฒนธรรม และโอกาสที่ผู้เรียนมีในมือ เราพบว่าผู้รับบริการของเรามากกว่า 270,000 คนในปีที่ผ่านมา ไม่ได้แค่ต้องการรู้ว่าจะเรียนอะไร หรือทำอาชีพอะไร แต่ต้องการ ‘เข้าใจชีวิต’ ของตน ต้องการคำแนะนำที่มีทั้งข้อมูล ความเข้าใจ และความเป็นมนุษย์ ซึ่งนี่คือความท้าทายของการพัฒนาแนะแนวในเชิงระบบ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ ดิฉันขอเน้นว่า การแนะแนวต้องก้าวข้ามขอบเขตของ “วิธีการแบบเดิม” และไปสู่การออกแบบ “ประสบการณ์การแนะแนว” ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมได้จริง มีพื้นที่ในการสะท้อนตนเอง และรู้สึกปลอดภัยพอที่จะพูดถึงความกลัว ความหวัง หรือความเปลี่ยนแปลงที่ตนกำลังเผชิญ เราต้องพัฒนาระบบแนะแนวที่มีทั้งฐานข้อมูลดิจิทัล เครื่องมือวัดผลแบบใหม่ และระบบติดตามผลที่ต่อเนื่อง เพื่อให้คำแนะนำไม่เป็นเพียงสิ่งที่ ‘จบในศูนย์แนะแนวและให้คำปรึกษา สกร.’ แต่เป็นสิ่งที่ต่อยอดไปสู่การตัดสินใจจริงในชีวิตของผู้เรียนในแต่ละวันการดำเนินงานด้านการแนะแนวและให้คำปรึกษาของ สกร. ได้สร้างรากฐานสำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับพื้นที่ โดยแม้ยังมีข้อจำกัดด้านบุคลากรและเครื่องมือ แต่ก็ได้แสดงถึงศักยภาพในการเป็นกลไก “สร้างทางเลือกชีวิต” ให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เยาวชน และผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษาและอาชีพ และเรามีเป้าหมายในการจัดทำยุทธศาสตร์การแนะแนวระดับกรมที่บูรณาการการศึกษา อาชีพ และสุขภาพจิตด้านส่วนตัวและสังคมเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีการเตรียมพัฒนาระบบ แพลตฟอร์มแนะแนวออนไลน์ระดับชาติ เพื่อเชื่อมโยงศูนย์แนะแนวระดับอำเภอ โดยมีความร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย สมาคมจิตวิทยาการปรึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อพัฒนามาตรฐานบุคลากรและบริการให้ครอบคลุมตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของผู้รับบริการต่อไปทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเรียนรู้และสมาคมจิตวิทยาแนะแนวแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบแนะแนวให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านหลัก จัดทำ สื่อ เครื่องมือ และกิจกรรมแนะแนว ตลอดจนระบบติดตามผล ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่และความต้องการของประชาชนทุกช่วงวัย
ข่าว : กองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
Accessibility Tools