วันที่ 8 ตุลาคม 2568 นางยุพิน บัวคอม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้รับมอบหมายจาก อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เข้าร่วมการประชุมกับคณะอนุกรรมาธิการการส่งเสริมการเรียนรู้ การศึกษาเอกชน การศึกษาพิเศษ และความเท่าเทียมทางการศึกษา ในคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ณ ห้องประชุมกรมาธิการ CA 329 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อศึกษาการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถของคนไทยในทุกช่วงวัย โดยคณะกรรมาธิการได้พิจารณาเห็นว่า ยังมีข้อจำกัดบางประการที่เกี่ยวข้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินงานให้ไม่บรรลุเจตนารมณ์ของกฎหมายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตัวแทนกรมส่งเสริมการเรียนรู้ได้เข้าร่วมให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย โดยเฉพาะในประเด็นการศึกษาพิเศษ การส่งเสริมความเท่าเทียมทางการศึกษา และการสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อให้กฎหมายและกลไกการดำเนินงานสามารถตอบสนองต่อสภาพความเป็นจริง และส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นางยุพิน บัวคอม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจการดำเนินงานตามมพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
ในด้าน การส่งเสริมการเรียนรู้ กรมได้มุ่งเน้นพัฒนาโอกาสและแหล่งเรียนรู้รูปแบบใหม่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ด้าน การศึกษาเอกชน ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการสนับสนุนการจัดการศึกษาและนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่ช่วยขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับด้าน การศึกษาพิเศษ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ผู้พิการและผู้มีความต้องการจำเป็นพิเศษสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างเสมอภาค
ส่วนด้านความเท่าเทียมทางการศึกษา เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนนโยบาย ที่มุ่งลดช่องว่างทางการเรียนรู้และสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกคน โดยไม่คำนึงถึงเพศ วัย ภูมิลำเนา หรือฐานะทางเศรษฐกิจ
การประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่หน่วยงานต่าง ๆ จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อพัฒนากฎหมายและกลไกการดำเนินงานด้านการเรียนรู้ของประเทศให้มีความสอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยให้เติบโตไปพร้อมกับการเรียนรู้อย่างยั่งยืน”