““อธิบดีเกศทิพย์” ร่วมภารกิจ “รองนายกฯ ธรรมนัส – รมว.ศธ. นฤมล” ลงพื้นที่เชียงราย พร้อมขับเคลื่อนการศึกษาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองกระทรวง ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบนโยบายเชิงบูรณาการด้านการเกษตรและการศึกษา รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และร่วมกำหนดแนวทางการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยมี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และ ผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองกระทรวง พร้อมคณะผู้บริหาร บุคลากร สกร. ในพื้นที่ เข้าร่วมภารกิจ เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มในพื้นที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบนโยบายและหารือร่วมกับผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดเชียงราย รองนายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซักถามและสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ พร้อมตอบข้อซักถามและมอบแนวทางการแก้ไขในแต่ละประเด็นอย่างตรงจุดคณะจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนเวียงชัย เพื่อพบปะครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ รับฟังปัญหาเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมถึงแนวทางการยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทของชุมชนโดยบุคลากรในพื้นที่มีข้อซักถามในประเด็นต่าง ๆ เช่น ปัญหาเรื่องการย้ายครู ที่ส่งผลต่อความต่อเนื่องของการเรียนการสอนในพื้นที่ ประเด็นเกี่ยวกับการปรับวิทยฐานะและการยกระดับคุณภาพครู ให้เป็นธรรมและสะท้อนผลงานอย่างแท้จริง รวมถึง ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งยังเป็นภาระสำคัญที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการศึกษาโดย ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับฟังทุกประเด็นด้วยความเข้าใจ พร้อมกล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับทั้งสามเรื่องอย่างเท่าเทียม ทั้งในด้านการบริหารอัตรากำลัง การส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิชาชีพ และการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของครู เพื่อให้ครูสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพและมีขวัญกำลังใจในการพัฒนาเยาวชนไทยจากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินทางไปยังหอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงชัย พบปะผู้นำท้องถิ่นและประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ พร้อมมอบผู้เกี่ยวข้องกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนจากนั้น คณะได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ภายใต้แนวคิด “สกร. Learn to Earn – สร้างงาน สร้างรายได้”ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานจากศูนย์การเรียนรู้และกลุ่มอาชีพของประชาชน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้าน ข้าวแต๋นมั่นใจ ผลิตภัณฑ์จากข้าว ธัญพืช สมุนไพร ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสิ่งทอ ผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติ (Eco Print) กระเป๋าผ้าทอมือ และงานฝีมือ D.I.Y. ซึ่งล้วนเกิดจากกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อยอดสู่การสร้างรายได้จริงในโอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมบูธของ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ด้วยความสนใจ ซักถามถึงกระบวนการจัดการเรียนรู้และแนวทางการต่อยอดผลลัพธ์สู่การพัฒนาอาชีพของประชาชน พร้อมชื่นชมแนวคิด “Learn to Earn” ว่าเป็นการนำการเรียนรู้ไปสู่การสร้างโอกาสและความยั่งยืนอย่างแท้จริงนางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดี สกร. กล่าวว่า “โครงการ Learn to Earn คือภาพสะท้อนของการเรียนรู้ที่เกิดจากการลงมือทำจริง ประชาชนได้ทั้งความรู้ อาชีพ และรายได้ สกร. จะขยายผลแนวคิดนี้ไปทุกจังหวัด เพื่อให้การเรียนรู้สร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนได้จริง”ภายในงานยังมีการจัดบูธจาก โครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix It Center) โดย วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งให้บริการประชาชนในหลายมิติ ทั้ง งานซ่อม งานสร้าง และงานพัฒนา ศูนย์ฯ แห่งนี้ดำเนินงานในลักษณะ จิตอาสาและบริการสาธารณะ อาทิ การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือการเกษตร การปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องจักรกลชุมชน รวมถึงกิจกรรมพัฒนาสาธารณประโยชน์ในช่วงเทศกาลสำคัญหรือวันหยุดยาว และยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เมื่อเกิดภัยพิบัติหรือน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) จะสานต่อนโยบาย “Learn to Earn” เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าถึงการเรียนรู้ที่นำไปสู่การสร้างอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกพื้นที่ของประเทศ“ทุกพื้นที่คือห้องเรียน ทุกอาชีพคือการเรียนรู้” ภารกิจครั้งนี้คือภาพสะท้อนของการฟังเสียงประชาชนอย่างจริงใจ และใช้ “การเรียนรู้” เป็นเครื่องมือสร้างพลังและความหวังให้สังคมไทยอย่างยั่งยืน