“สกร. ร่วมประชุมขับเคลื่อนนโยบาย ศธ. ระดับพื้นที่ เดินหน้าสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ด้วย Flexible Education เพื่อคนไทยทุกคน”

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เข้าร่วมประชุมขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในระดับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
ณ โรงแรมกระบี่มาริไทม์ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อถ่ายทอดทิศทางและนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการให้เกิดการปฏิบัติจริงในระดับพื้นที่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวต้อนรับ และนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมมอบนโยบายหลักของกระทรวงฯ ที่มุ่ง “พัฒนาคุณภาพคนไทยให้เท่าทันโลก สร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย”

ในการประชุมช่วงบ่าย มีการเสวนาวิชาการหัวข้อ “กลยุทธ์การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการร่วมเสวนา อาทิ
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากรมส่งเสริมการเรียนรู้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
โดยมีรองศึกษาธิการภาค 3 เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวว่า ภารกิจของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 มุ่งให้ “คนไทยทุกช่วงวัย” ได้รับโอกาสในการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยไม่จำกัดเฉพาะการเรียนในระบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เป็นพลเมืองที่ดี มีวินัย มีคุณธรรม และตระหนักในความรับผิดชอบต่อสังคม

“หัวใจของการส่งเสริมการเรียนรู้ตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติ คือ การพัฒนาคนให้ครบมิติ” อธิบดีเกศทิพย์กล่าว “เราต้องให้ประชาชนมีทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และเท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล”

กรมส่งเสริมการเรียนรู้จึงดำเนินงานผ่าน 3 ระบบสำคัญ ได้แก่ 1. การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิทางการศึกษา 2. การพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพ 3. การเรียนรู้ตลอดชีวิต

ดร.เกศทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเรียนรู้ได้ดำเนินนโยบาย Flexible Education ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และในรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง ผ่าน 4 มิติ ได้แก่ Flexible Time, Flexible Place, Flexible Pathway และ Flexible Assessment

“เรากำลังผลักดันให้เทคโนโลยี ICT เป็นเครื่องมือหลักในการขยายโอกาสทางการเรียนรู้ เช่น ระบบ Credit Bank การเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘Doledemy’ และโครงการ ‘สกร.อาสาพาใช้แอปพลิเคชัน’ เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลของประชาชนให้เข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวก”

นอกจากนี้ สกร. ยังเร่งสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดประชาชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา หรือศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ของทุกวัย

“แม้ทรัพยากรของเราจะมีจำกัด แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกพื้นที่กลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้” อธิบดีเกศทิพย์กล่าว “สิ่งสำคัญคือพลังความร่วมมือจากภาคีทุกภาคส่วนที่จะทำให้ภารกิจของกรมส่งเสริมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมาย และเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกคนได้อย่างแท้จริง”