สกร.–มติชน–มูลนิธิเสริมกล้า ผนึกกำลังส่งเสริมการอ่าน เปิด “โครงการ Read for the Future ส่งเสริมการอ่าน สร้างอนาคต”

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ณ โถงอาคารมติชน ชั้น G กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ร่วมกับ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิเสริมกล้า จัดพิธีมอบหนังสือภายใต้ “โครงการ Read for the Future ส่งเสริมการอ่าน สร้างอนาคต” เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมการอ่านและสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับประชาชนทุกช่วงวัย

ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ก่อตั้งมูลนิธิเสริมกล้า กล่าวถึงแนวคิดของโครงการที่มุ่งส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ โดยมูลนิธิเสริมกล้าได้มอบหนังสือคุณภาพให้แก่ห้องสมุดประชาชนในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้จำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งความรู้

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวในพิธีว่า สกร. ถือเป็น “รากฐานของทุกครัวเรือน” เพราะมีภารกิจดูแลประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ระบบการศึกษาเข้าไม่ถึงหรือไม่มีสถานศึกษา สกร. จะเข้าไปจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเรียนรู้อย่างทั่วถึงตั้งแต่ระดับปฐมวัย ไปจนถึงผู้ใหญ่ รวมถึงผู้ด้อยโอกาส เด็กที่หลุดออกจากระบบ ผู้ต้องขัง และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งถือเป็นหน้าที่โดยตรงของ สกร. ในการสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ให้กับทุกคน

อธิบดีเกศทิพย์ กล่าวต่อว่า การเรียนรู้ที่มีคุณภาพจำเป็นต้องมี “สื่อและอุปกรณ์” ที่เข้าถึงองค์ประกอบของการเรียนรู้ โดยเฉพาะหนังสือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งนี้ สกร. ได้ดำเนินการตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ประชาชนสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างต่อเนื่องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

“การอาศัยภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งอย่างมูลนิธิเสริมกล้า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการทำงานร่วมกันครั้งแรกในฐานะอธิบดี สกร. โดยมูลนิธิได้มอบหนังสือให้กับห้องสมุดประชาชน 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ผ่านหนังสือที่มีคุณภาพจากเครือมติชน ดิฉันมองว่าโครงการนี้เป็นการมอบโอกาสให้กับอนาคตที่แตกต่างของแต่ละคน เพราะการหยิบหนังสือที่สนใจขึ้นมาอ่าน คือการเริ่มต้นสร้าง ‘อนาคตของตนเอง’ และเมื่อยิ่งอ่านก็ยิ่งเกิดความลึกซึ้ง กลายเป็นเสน่ห์ของวัฒนธรรมการอ่านที่ทำให้ความรู้ซึมซับเข้าไปในตัวผู้อ่านอย่างแท้จริง” นางเกศทิพย์กล่าว

อธิบดีเกศทิพย์ ยังกล่าวเสริมว่า ถึงแม้โลกปัจจุบันจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่การอ่านในทุก ๆ วันยังคงเป็น “โอกาสของการพัฒนาตนเอง” ที่ทำให้แต่ละคนสามารถแสวงหาอนาคตของตนเองได้อย่างอิสระ ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลห้องสมุดชุมชนทั่วประเทศ สกร. เห็นว่าโครงการนี้เป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนการเรียนรู้ให้เข้าถึงทุกครัวเรือน ผ่านเครื่องมือและสื่อที่มีคุณภาพ พร้อมเน้นย้ำว่าห้องสมุดทั่วประเทศยังต้องการหนังสือดี ๆ อีกจำนวนมาก และต้องการภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งเข้ามาร่วมผลักดันให้ “องค์ความรู้” เข้าถึงทุกครอบครัว

ทั้งนี้ สกร. ยังดำเนินงานเชิงรุกผ่าน “ห้องสมุดเคลื่อนที่” ที่นำองค์ความรู้ไปถึงชุมชน ตลาดสด และพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงหนังสือและสื่อการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา อธิบดีเกศทิพย์ได้กล่าวปิดท้ายเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมกันส่งต่อหนังสือดี ๆ และสื่อสร้างสรรค์ให้แก่ห้องสมุดทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และอนาคตที่ยั่งยืนของคนไทยทุกช่วงวัย

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังแห่งความร่วมมือ โดยมีผู้บริหารจากทั้งสามองค์กรร่วมมอบหนังสือและของที่ระลึก พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการผลักดัน “โครงการ Read for the Future” ให้เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญของสังคมแห่งการเรียนรู้ไทย.