วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ณ ห้องประชุมบรรจง ชูสกุลชาติ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ สกร. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางการใช้งบประมาณสำหรับการจัดและส่งเสริมการเรียนรู้แก่ “เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา” พร้อมพัฒนาระบบติดตามผลทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และรายบุคคล เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างแท้จริง
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นตาม นโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กล่าวว่า สกร. เป็นหน่วยงานหลักในการค้นหา ดูแล และคืนโอกาสการเรียนรู้ให้เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้ และเชื่อมถึงเด็กและเยาวชนทุกคนในประเทศ
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดี สกร. เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้บริหารส่วนกลาง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด และเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
อธิบดี สกร. กล่าวถึง “จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา” ว่าต้องเริ่มจากการค้นหาและยืนยันตัวตนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้ถูกต้อง แม้เด็กและเยาวชนบางรายอยู่ในข้อมูลของจังหวัดหนึ่ง แต่ไม่มีการเชื่อมโยงไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ทำให้ “หลุดออกจากระบบข้อมูล” โดยไม่ตั้งใจ
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ สกร. เตรียมนำแพลตฟอร์ม DOLEDEMY มาใช้เป็นระบบกลางสำหรับ ค้นหา ตรวจสอบ และติดตามเด็กข้ามจังหวัด อย่างเป็นทางการ ช่วยลดความซ้ำซ้อน สร้างฐานข้อมูลเดียวที่เชื่อถือได้ และสนับสนุนนโยบาย รมว.ศธ. ที่ต้องการให้ “ข้อมูลเด็กและเยาวชนทุกคนติดตามได้จริงถึงรายบุคคล”
พร้อมกำหนดแนวทางการจำแนกประเภท “เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา” เพื่อวางแผนช่วยเหลือได้อย่างแม่นยำและเหมาะสม ครอบคลุมทั้งด้านวิชาการ ทักษะอาชีพ สุขภาพ และทักษะชีวิต โดยแบ่งการดูแลออกเป็น 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มที่ต้องการกลับเข้าเรียน : ประสานโรงเรียนในพื้นที่หรือสถานศึกษา สกร. ให้เด็กและเยวชนสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ทันที พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง 2) กลุ่มที่ไม่ประสงค์กลับเข้าเรียน : ออกแบบรูปแบบการเรียนรู้ทางเลือก เช่น การเรียนอาชีพ การพัฒนาทักษะเฉพาะทาง หรือการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง โดยทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงสู่ระบบการเทียบโอนคุณวุฒิในอนาคต เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสเติบโตและสร้างเส้นทางชีวิตที่ต้องการได้อย่างยั่งยืน
สำหรับเด็กป่วย เด็กติดเตียง หรือไม่สามารถออกจากบ้านได้ สกร. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พม. หรือจัดครูพิการลงพื้นที่เพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างไม่ตกหล่น
อธิบดี สกร. อ้างอิงเจตนารมณ์ตามพระราชบัญญัติการศึกษาขั้นพื้นฐานว่า เด็กไทย เด็กไร้สัญชาติ หรือเด็กต่างชาติ ล้วนมีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานฟรี 15 ปีอย่างเสมอภาค โดยรัฐต้องดูแลโดยไม่เลือกปฏิบัติ
การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนบทบาทของ สกร. ในฐานะ “หลักประกันโอกาสทางการศึกษา” ให้แก่เด็กและเยาวชนนอกระบบซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงยากที่สุด การนำเทคโนโลยี DOLEDEMY และระบบติดตามที่เป็นเอกภาพ จะทำให้การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเป็นรูปธรรมมากขึ้นและตอบสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้การแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาเป็นไปอย่างยั่งยืน ครอบคลุม และตามได้ถึงตัวเด็กทุกคนทั่วประเทศ