สกร. ลงพื้นที่ราชบุรี เยี่ยมให้กำลังใจ “สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาคกลาง” เดินหน้านโยบาย รมว.ศธ.–สกร. พร้อมเร่งสร้างเครือข่าย CSR และเสริมความพร้อมสถาบันฯ ภาค ให้เข้มแข็งตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บริหารและบุคลากรสถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาคกลาง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจการเรียนรู้ตลอดชีวิตในเขตภาคกลาง

การลงพื้นที่เริ่มต้นด้วยการสักการะ “หลวงพ่อแดง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่สถาบันฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าสู่การหารือการทำงานร่วมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งด้านนโยบาย การบริหารงานบุคคล และความพร้อมของสถาบันฯ ในการรองรับบทบาทใหม่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566

อธิบดีเกศทิพย์ได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของ ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และภารกิจเร่งด่วนของ สกร. พร้อมมอบแนวทางให้สถาบันภาคกลางเร่งสร้าง “ภาคีเครือข่าย–CSR ภาคกลาง” เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้ประชาชนทุกช่วงวัย

จากการสอบถามบทบาทและสภาพการทำงานของสถาบันฯ พบว่า มีปัญหาขาดแคลนบุคลากร อธิบดีจึงมอบหมายให้กลุ่มบริหารงานบุคคลเร่งสำรวจภาระงานเพื่อจัดสรรอัตรากำลังให้เหมาะสม และวางแผนของบประมาณในขั้นต่อไป พร้อมให้สำรวจความพร้อมของสถาบันฯ ภาคทั่วประเทศ เพื่อให้ดำเนินภารกิจได้เต็มประสิทธิภาพทั้งด้านการเข้าถึงประชาชนและการดูแลประชาชนตลอดช่วงชีวิต

อธิบดีเกศทิพย์ยังกล่าวถึงความประทับใจในการทำงานของบุคลากร สกร. ทั่วประเทศว่า
“สกร. เข้ากับชุมชนได้อย่างดี และเป็นที่รักของชุมชน แม้กระทั่งในพื้นที่ที่ท้าทาย หน่วยงานอื่นอาจไม่กล้าเข้าไป แต่ สกร. สามารถเข้าไปทำงานได้สำเร็จ นี่คือพลังของการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง”
พร้อมแสดงความมุ่งมั่นที่จะหาวิธีตอบแทนและสนับสนุนบุคลากรที่ทำงานหนักในทุกพื้นที่

อธิบดีสกร. ยังกล่าวถึง “ปัจจัยสำคัญ 2 ประการ” ที่จะทำให้การทำงานตาม พ.ร.บ.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางงบประมาณจำกัดและประชาชนกลุ่มเป้าหมายกว่า 44 ล้านคน ได้แก่

  1. การอาศัยภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมพลังในการทำงาน
  2. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เป็นเครื่องมือสำคัญในส่งเสริมการเรียนรู้

พร้อมชี้ถึง “จุดอ่อนที่ต้องเร่งแก้ไข” คือ การเก็บข้อมูลที่มุ่งเชิงปริมาณมากกว่าคุณภาพ โดยเห็นว่าข้อมูลเชิงลึกมีความจำเป็นต่อการพัฒนาการเรียนรู้ให้ตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น

ท้ายที่สุด อธิบดีเกศทิพย์ได้ย้ำถึง “อาวุธสำคัญ” ของ สกร. ในการทำงาน คือ ความสามารถในการดึงหน่วยงานภายนอกเข้ามาร่วมเป็นผู้สอน และบทบาทในการ “ออกวุฒิการศึกษาได้” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมต่อสู่ระบบคุณวุฒิและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การลงพื้นที่ราชบุรีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการติดตามงาน แต่เป็นการยืนยันว่า สกร. พร้อมเดินเคียงข้างทุกจังหวัด เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของประชาชนในภาคกลางและทั่วประเทศ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 อย่างแท้จริง