วันที่ 8 ธันวาคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางรับมือสถานการณ์ความไม่สงบกรณีมีการปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีนางยุพิน บัวคอม และนายเอกราช ชวีวัฒน์ รองอธิบดีฯ พร้อมที่ปรึกษาอธิบดีและผู้บริหาร สกร. ส่วนกลาง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสุนทร สุนันท์ชัย ชั้น 4 กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ขณะที่ผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดชายแดนทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ จันทบุรี สระแก้ว ตราด รวมถึงจังหวัดพิษณุโลก ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์
อธิบดี สกร. แสดงความห่วงใยต่อครู เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แนวชายแดน พร้อมกำชับให้ทุกจังหวัดยึดมาตรการ “ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก” โดยให้สอดคล้องกับข้อสั่งการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
สกร. ประจำจังหวัดชายแดนได้รับมอบหมายให้เตรียมความพร้อมทุกมิติ ทั้งการถอดบทเรียนในภารกิจที่ผ่านมา การจัดทีมช่วยเหลือในศูนย์พักพิงผู้อพยพ และการสนับสนุนจัดการเรียนรู้ในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อดูแลประชาชนในทั้ง 7 จังหวัดให้ได้รับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในสถานการณ์วิกฤต
อธิบดี สกร. มอบหมายให้ทุกจังหวัดสำรวจความต้องการของผู้อพยพ พร้อมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะกิจกรรมบน “รถโมบายเคลื่อนที่” อัตลักษณ์สำคัญของ สกร. ที่สามารถนำหนังสือ ความรู้ และความบันเทิงเข้าถึงทุกกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ ร้องเพลง ตัดผม หรือฝึกอาชีพระยะสั้น
นอกจากนี้ ให้ สกร. ทุกจังหวัดร่วมกันจัดหาอุปกรณ์เรียนรู้ วัสดุศิลปะ ของเล่น และชุดกิจกรรมระบายสีสำหรับเด็ก รวมถึงกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเปลี่ยนศูนย์พักพิงให้เป็น “พื้นที่แห่งความอบอุ่นและการเรียนรู้” ช่วยให้ผู้อพยพรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยมากที่สุด พร้อมทั้งขอให้จังหวัดข้างเคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรม
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ประธานที่ปรึกษาอธิบดีฯ เสนอให้ สกร. จัดทำ “มาตรฐานกิจกรรมในศูนย์พักพิง” ร่วมกันทุกจังหวัด เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อบรมอาชีพระยะสั้น และบริการตัดผม เพื่อให้รูปแบบการช่วยเหลือมีคุณภาพสม่ำเสมอทั่วประเทศ
ด้านนางยุพิน บัวคอม รองอธิบดีฯ เน้นให้ทุกจังหวัดออกแบบกิจกรรมจาก “ความต้องการจริงของประชาชน” พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมการเรียนรู้ในระยะยาวในกรณีสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ทั้งการพบกลุ่ม การจัดสอบ และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยย้ำว่า ทุกครั้งที่ สกร. ลงพื้นที่ “ต้องมีรถโมบายเคลื่อนที่” เป็นสัญลักษณ์ที่ประชาชนคุ้นเคยและจดจำได้
นายเอกราช ชวีวัฒน์ รองอธิบดีฯ เสนอให้เร่งจัดทำโครงการอบรมครูในพื้นที่ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พม. เป็นวิทยากร เพื่อพัฒนาทักษะการดูแลจิตใจทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ประสบเหตุ พร้อมผลักดันระบบสำรวจความพร้อมของครู ติดตามเด็กที่อาจหลุดจากระบบการศึกษา และรายงานผลการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง