วันที่ 22 ธันวาคม 2568 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เป็นประธานการประชุมรายงานความก้าวหน้าการสำรวจและรวบรวมข้อมูลหลักสูตรอาชีพของสถานศึกษาในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศหลักสูตรอาชีพที่มีความครบถ้วน สมบูรณ์ และพร้อมใช้งานสำหรับการวางแผนยกระดับทักษะอาชีพของประชาชน โดยมีนางรุ่งอรุณ ไสยโสภณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมมาตรฐานการศึกษานอกโรงเรียน นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ พร้อมด้วยข้าราชการและบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมสุนทร สุนันท์ชัย ชั้น 4 กรมส่งเสริมการเรียนรู้

การประชุมครั้งนี้เป็นการสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันสถานศึกษาทั่วประเทศได้รายงานข้อมูลหลักสูตรอาชีพเข้าสู่ระบบของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และคัดเลือกหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์การพัฒนาอาชีพและการสร้างรายได้ของประชาชนในบริบทพื้นที่ที่หลากหลาย

นอกจากนี้ ยังมีการรายงานผลการรับรองหลักสูตรจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับใบรับรองที่มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในตลาดแรงงาน และสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้จริง โดยเน้นการพัฒนาหลักสูตรเชิงบูรณาการ ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมวิชาการเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตลอดจนปราชญ์ชาวบ้านและผู้ทรงคุณวุฒิในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่สะท้อนเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชุมชน ควบคู่กับการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปและประมวลผลข้อมูลทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่ออธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ตามข้อสั่งการ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เข้าถึงง่าย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในเชิงบริหารจัดการและการให้บริการประชาชน

ในการนี้ อธิบดี สกร. ได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการจัดทำข้อมูลสารสนเทศให้มีความชัดเจนและเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำบทบาทของ สกร. ที่ไม่ใช่เพียงรอให้ผู้เรียนเดินเข้ามาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นฝ่าย “ส่งต่อความรู้” ในลักษณะ Rider ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญ เพื่อให้การเรียนรู้เข้าถึงประชาชนได้ทุกที่ ทุกเวลา ภายใต้รูปแบบ Flexible Education ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งสร้างความยืดหยุ่น ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของพื้นที่ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม

อธิบดี สกร. ยังย้ำว่า การดำเนินงานของกรมต้องยึดหลักตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 มาตรา 5 เป็นสำคัญ คือการสร้างการเรียนรู้ที่เข้าถึงประชาชน “ทุกช่วงวัย” แม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและบุคลากร แต่สามารถใช้ระบบ ICT และการสร้างภาคีเครือข่ายเข้ามาเสริมพลัง เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมและเกิดผลเป็นรูปธรรม

พร้อมกันนี้ ได้กำชับว่า “นวัตกรรม” หรือ “หลักสูตร” ที่ สกร. พัฒนาขึ้น ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานระดับประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถนำไปขยายผลและใช้ได้ทั่วประเทศอย่างแท้จริง โดยเป้าหมายสูงสุดของ สกร. ไม่ใช่เพียงการมีหลักสูตรให้เลือกเรียนจำนวนมาก แต่คือการทำให้การเรียนรู้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงการเรียนรู้ได้แม้ในสถานที่ที่คาดไม่ถึง

ดร.เกศทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของ สกร. ต่อจากนี้ ต้องปรับกระบวนทัศน์จากการเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง มาเป็นการศึกษา รวบรวม และต่อยอดองค์ความรู้และงานวิจัยที่มีอยู่เดิม เพื่อเติมเต็มและสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีทิศทาง พร้อมเน้นว่าการทำงานด้านนวัตกรรมไม่ควรหยุดอยู่เพียงรายงานผลหรือการติดตามงาน แต่ต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผลเพื่อสร้างแนวทางใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

“เราต้องทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ อยากเรียนรู้ และมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาตนเองและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวในตอนท้าย