อธิบดี สกร. ปักหมุดราชบุรี รุกนโยบาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ 2566 ปั้นภาคีเครือข่ายเข้มแข็ง – รุกจัดการเรียนรู้เชิงพื้นที่

วันที่ 22 ธันวาคม 2568 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดราชบุรี พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ภาคีเครือข่ายที่ส่งเสริมและสนับสนุนงานส่งเสริมการเรียนรู้ดีเด่น โดยมีนางอัญชลี ปสันตา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดราชบุรี คณะผู้บริหาร และบุคลากรเข้าร่วม ณ ห้องประชุมวัดหุบกระทิง ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งผลักดันการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เข้าถึงประชาชนทุกช่วงวัย ผ่านการจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เชื่อมโยงการศึกษา อาชีพ และคุณภาพชีวิต โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน และเสริมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม

กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการปาฐกถาธรรมโดยพระมหาสงกรานต์ สนฺติกโร เจ้าอาวาสวัดหุบกระทิง จากนั้นอธิบดี สกร. ได้ถวายเครื่องไทยธรรม และเกียรติบัตรภาคีเครือข่ายที่ส่งเสริมและสนับสนุนงานส่งเสริมการเรียนรู้ดีเด่น แด่พระมหาสงกรานต์ สนฺติกโร เจ้าอาวาสวัดหุบกระทิง และพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ พร้อมรับชมการแสดงของนักศึกษาและภาคีเครือข่ายระดับอำเภอบ้านโป่ง
อธิบดี สกร. ได้พบปะและมอบนโยบายแก่บุคลากร โดยเน้นย้ำการทำงานภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยกำหนดบทบาทใหม่ของบุคลากร สกร. จาก “ครูผู้สอน” ไปสู่ “ผู้จัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น (Flexible Education)” เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ของประชาชนทุกช่วงวัย

อธิบดีกรมฯ กล่าวว่า “เราไม่ใช่แค่ครูที่สอนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษา แต่เราคือความหวังของสังคมในการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิต” พร้อมกระตุ้นให้บุคลากรเริ่มต้นจากการพัฒนาตนเอง เปลี่ยน “ความไม่รู้” เป็น “รู้จริง” ก่อนส่งต่อองค์ความรู้ให้กับชุมชน

อธิบดีกรมฯ ยังชื่นชมจิตวิญญาณการทำงานเชิงประจักษ์ของชาว สกร. ที่สามารถนำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยยกตัวอย่างโครงการ “สกร.อาสา พาใช้แอปพลิเคชัน” ที่ครูลงพื้นที่เคาะประตูบ้านช่วยประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึงภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้และพื้นที่ชายแดน ซึ่งสะท้อนบทบาทของ สกร. ในการเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง

เพื่อขับเคลื่อนภารกิจตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ให้สอดรับกับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดี สกร. ได้มอบ “อาวุธ 3 อย่าง” ให้แก่บุคลากร ได้แก่ 1) พลังภาคีเครือข่าย บูรณาการทรัพยากรและความร่วมมือทุกภาคส่วน 2) นวัตกรรม ICT และ AI ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลคุณภาพสร้างผลกระทบเชิงกว้าง และ 3) Credit Bank เชื่อมโยงทุกการเรียนรู้สู่คุณวุฒิและความก้าวหน้าในอาชีพ

ช่วงท้าย อธิบดีกรมฯ ได้สร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรทุกตำแหน่ง พร้อมยืนยันว่าการพัฒนาความก้าวหน้าในสายอาชีพและความมั่นคงของบุคลากร เป็นภารกิจสำคัญที่กำลังเร่งดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตามแนวทางที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ โดยเน้นการทำงานอย่างมีความสุขใน “ครอบครัว สกร.” เพื่อร่วมกันวางรากฐานความมั่นคงให้ประชาชนจากระดับฐานราก ภายใต้อุดมการณ์ “สกร. จะอยู่ในใจทุกครัวเรือน”

ภายหลังพิธี อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการที่สะท้อนการขับเคลื่อนงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาอาชีพ และการใช้ทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ดังนี้

นิทรรศการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้ นำเสนอการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยห้องสมุดประชาชน การรู้หนังสือประชาชนพื้นที่สูง (ศศช.) อำเภอสวนผึ้ง การพัฒนาผู้เรียน To Be Number One อำเภอบางแพ การเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับและ Credit Bank โมเดลการเรียนรู้เชิงพื้นที่ของ สกร.อำเภอบ้านโป่ง การปักหมุดแหล่งเรียนรู้ “ราชาบุรี ศิลป์วารี ศรีเมืองโอ่ง” การขับเคลื่อนสถานศึกษาปลอดภัย–สถานศึกษาสีขาว อำเภอโพธาราม และการพัฒนางานวิจัยบุคลากรในเขตภาคกลาง

นิทรรศการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ
สะท้อนการใช้ภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ท้องถิ่นสร้างอาชีพ ได้แก่ ผ้ามอญทอมือ อำเภอบ้านโป่ง และความร่วมมือพัฒนาอาชีพระหว่าง สกร.บ้านโป่ง กับบริษัท SCG เพื่อเพิ่มทักษะอาชีพและรายได้ชุมชน

นิทรรศการพิเศษ “Sweet Heritage : ขนมไทยโบราณ Soft Power ท้องถิ่นจะคงอยู่” โดย สกร. ระดับอำเภอ ดังนี้ ขนมปากิมเผือก – สกร.ระดับอำเภอบ้านโป่ง, ขนมข้าวห่อ / ขนมบัวลอยญวณ / ขนมหมี่สิ (ข้าวเหนียวงาดำ) – สกร.ระดับอำเภอสวนผึ้ง, ขนมหน่อไม้ – สกร.ระดับอำเภอบ้านคา, ขนมกระยาสารทยวน – สกร.ระดับอำเภอจอมบึง, เปิงฮะด๊าจก์ (ข้าวอีกา) – สกร.ระดับอำเภอโพธาราม, ลูกตาลลอยแก้ว – สกร.ระดับอำเภอเมืองราชบุรี, ขนมอังถ่อก้วย – สกร.ระดับอำเภอดำเนินสะดวก, ขนมงาสลัด – สกร.ระดับอำเภอวัดเพลง, ขนมฝักบัว – สกร.ระดับอำเภอปากท่อ และขนมหม้อแกงโบราณ – สกร.ระดับอำเภอบางแพ

นิทรรศการดังกล่าวไม่เพียงจัดแสดงขนมไทยโบราณ แต่สะท้อนการทำงานของบุคลากร สกร. ในการแปลงอัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นหลักสูตรการเรียนรู้และอาชีพ สร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่การรักษา “รากแก้วแห่งวิถีชุมชน” ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน