สกร. ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการระดับชาติ ครั้งที่ 1/2568

เมื่อวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568
ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ระดับชาติ ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายและกลไกการทำงานในการดูแล ช่วยเหลือ และเปิดโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ระดับชาติ โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ โดยมีผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ และอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการร่วม เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงนโยบาย ติดตามความก้าวหน้า และกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและบริบทพื้นที่

บทบาทสำคัญของคณะกรรมการฯ มุ่งเน้นการกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในระดับประเทศ การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาทักษะตามศักยภาพ รวมถึงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลายประเด็นสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเห็นชอบให้ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาชั่วคราว พร้อมทั้งเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามนโยบาย Thailand Zero Dropout PLUS ประจำปี พ.ศ. 2569

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับระเบียบของ กสศ. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการทำงานในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ตลอดจนมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวในปี พ.ศ. 2569 อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

การประชุมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาเพื่อความเสมอภาค โดยกรมส่งเสริมการเรียนรู้ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมทำหน้าที่ประสานพลังเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเองต่อไป