นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เปิดเผยถึงกรณี “นศ.ชายร้อง! ครูฝึกสั่งควักของลับต่อหน้าคน” ว่า เนื้อหาข่าว หนุ่มวัย 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ถูกครูฝึกที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก สั่งให้เขาและเพื่อนที่เป็นนักศึกษาชายด้วยกันยืนเข้าแถวครั้งละ 8 คน ถอดกางเกงออกแล้วควักอวัยวะเพศออกมาฉี่ใส่ถุงซองชุดตรวจปัสสาวะต่อหน้าคณะครูฝึก และครูผู้สอน รวมทั้งนักศึกษาชาย-หญิง จำนวน 100 คน ที่มาเข้าค่ายด้วยกัน . โดยเขารู้สึกรู้สึกอับอายและมองว่าเป็นการอนาจารรวมถึงละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลจึงตัดสินใจมาแจ้งความ ซึ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอวชิรบารมี เผยว่าหลังจากเกิดเหตุการนี้ขึ้นก็ต้องหาแนวทางที่จะแก้ปัญหานี้เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ขณะที่ครูผู้สอนศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้บอกว่าครูที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ไม่ได้มีการให้ถอดกางเกงแต่อย่างใดแต่มีการตรวจปัสสาวะจริง นั้น

จากการสอบถามผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนยรู้ระดับอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ความว่า กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการตรวจค้นพบอาวุธและสารเสพติดในกระเป๋านักศึกษา ซึ่งนำไปสู่การตรวจปัสสาวะเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินกิจกรรม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง โดยสอบถามจากคณะครู นักศึกษาบางส่วนที่เข้าร่วมกิจกรรม และครูฝึก (ทหาร) รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบ ผลการสืบสวน พบว่า ข้อเท็จจริงไม่เป็นความจริงดังที่กล่าวอ้าง ข้อเท็จจริง คือ ครูฝึก (ทหาร) ได้นำนักศึกษาชายไปอีกฝั่งของสนาม ที่ตรงข้ามจากที่นักศึกษาหญิงอยู่ ระยะห่าง ประมาณ 40 – 50 เมตร และให้นักศึกษาชายหันหน้าเข้ากำแพงเรือนนอน และนักศึกษาหญิงหันหลังอยู่อีกฝั่งของสนามหญ้า และทหารได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะ จากการสอบถามนักศึกษาชายบางส่วน ครูฝึกอนุญาตให้นักศึกษาชายไปปัสสาวะที่มุมลับตาคน โดยไม่มีการบังคับ ขู่เข็ญ และไม่มีการอนาจาร ดังที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ผู้บริหารสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง ประชุมครูเพื่อสอบถามรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เชิญทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน โดยล่าสุดนักศึกษาที่เข้าแจ้งความได้ดำเนนิการถอนแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้กำชับให้ครูที่มีหน้าที่ดูแลนักศึกษาในการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ในทุกกิจกรรมอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำมาตรการตามแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเชิงรุกทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา โดยการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเพื่อให้เท่าทันและป้องกันยาเสพติดของเด็กและเยาวชน